วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ฮ่ะ ๆๆ

BIEVENUE SUR MON BLOC





พระราชวังแวร์ซายส์


ชื่อเรียก
ภาษาอังกฤษ

Palace and Park of Versailles


ภาษาฝรั่งเศส

Palais et parc de Versailles


ภาษาสเปน

Palacio y parque de Versalles


ภาษาเยอรมัน

Schloss und Park von Versailles


ภาษาอิตาลี

Reggia di Versailles


ภาษารัสเซีย

Версальский дворец

ภาษาโปรตุเกส

Palácio e Parque de Versalhes







>>> เดิมนั้น เมืองแวร์ซายส์เป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น มีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง บริเวณส่วนใหญ่เป็นป่าเขา เยี่ยงชนบทอื่น ๆ ของฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ยังทรงพระเยาว์ ขณะพระชนมายุได้ 23 พระชันษา ทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายส์น่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมาใน พ.ศ. 2167 โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น
เมื่อ
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ขึ้นครองบัลลังก์ มีประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มปรับปรุงพระตำหนักเดิมในปี พ.ศ. 2204 ใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์ คนงาน 30,000 คน และใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จในพ.ศ. 2231 ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภาย ในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง
การก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์แห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ต่อมาจึงได้มีกองทัพประชาชนบุกเข้ายึดพระราชวังและจับ
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อองตัวเนต ประหารด้วย "กิโยติน" ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2332 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังอยู่ในสภาพดีและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้




[ภาพพาโนรามาของบริเวณพระราชวังแวร์ซายส์]








------------------------------------------------------------------------







ห้องกระจก







ห้องกระจก(Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดซึ่งเคยใช้เป็น ห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และใช้เป็นที่ลงนาม ในเมื่อเยอรมันบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงทำการก่อสร้างเอง ภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน เปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายส์อันสวยงาม





----------------------------------------------------------------------------










เหตุผลที่ได้รับคัดเลือกเป็นมรดกโลก




พระราชวังแวร์ซายส์ได้รับจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2522 ที่ประเทศอียิปต์ ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้
(i) - เป็นตัวแทนซึ่งแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันฉลาด
(ii) - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
(vi) - มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์









เหตุการณ์สำคัญ



พ.ศ. 2167 (ค.ศ. 1624) - พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ทรงมีรับสั่งให้สร้างพระตำหนักที่แวร์ซายส์ขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับในขณะล่าสัตว์
พ.ศ. 2204-2208 (ค.ศ. 1661-1665) - พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงจ้าง
สถาปนิก หลุยส์ เลอ โว (Louis Le Vau) ให้มาสร้างพระราชวัง
พ.ศ. 2210-2213 (ค.ศ. 1667-1670) - การก่อสร้างสวนโดย อองเดร เลอ โนเทรอ(André Le Nôtre)
พ.ศ. 2211 (ค.ศ. 1668) - เลอ โว เริ่มสร้างพระราชวังต่อ
พ.ศ. 2218-2225 (ค.ศ. 1675-1682) - สร้างเขื่อนที่
แม่น้ำเซน เพื่อผันน้ำเข้าสู่พระราชวัง
พ.ศ. 2221-2230 (ค.ศ. 1678-1688) - สร้างห้องกระจกโดย Monsieur
พ.ศ. 2242-2253 (ค.ศ. 1699-1710) - สร้างโบสถ์
พ.ศ. 2296-2313 (ค.ศ. 1753-1770) - สร้างโรงละคร
โอเปรา