วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552

ไปหาหมอ”... จะเริ่มที่ไหนดี?

คำแนะนำสำหรับผู้สูงอายุหรือแม้แต่คนทั่วไปที่ต้องการปรึกษาแพทย์เรื่องการดูแลสุขภาพให้ดีแต่เนิ่นๆ
คุณผู้อ่านที่ติดตาม HealthToday หรือบทความเกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ อย่างต่อเนื่องคงคุ้นเคยกับประโยคเด็ดที่ว่า ถ้ามีปัญหาสุขภาพ ควรไปพบแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำ ฟังดูเป็นเรื่องปกติธรรมดา เหมือนเวลาที่เราปวดหัวตัวร้อนก็ต้องออกจากบ้านไปหาคุณหมอเพื่อขอยามารับประทาน แต่สำหรับหลายๆ ท่านโดยเฉพาะเมื่อก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุที่อวัยวะต่างๆ เริ่มเสื่อมถอย การใช้งานแขนขามือเท้าเริ่มไม่คล่องตัวเหมือนอย่างที่เคยเป็น หรือเริ่มมีอาการเวียนงงก๊งหมุนบ่อยครั้งเข้า บางครั้งก็ปวดเมื่อยเนื้อตัว เป็นหลายอาการที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน แถมเรื้อรังไม่หายง่ายๆ คราวนี้การจะไปปรึกษาคุณหมอเริ่มจะมีประเด็นซับซ้อนขึ้น จนเกิดมีคำถามในใจว่า เราควรจะปรึกษาใคร แล้วควรจะเริ่มต้นที่ไหนจึงจะดี? เคยได้ยินว่าบางคนขบคิดปัญหานี้แล้วตอบตัวเองไม่ได้จึงอยู่เฉยๆ ไม่ไปปรึกษาแพทย์คนไหนสักคนเสียเลย จนในที่สุดอาการเจ็บป่วยบานปลายสายเกินไปที่จะรักษาให้หาย แบบนี้ก็มี HealthToday ฉบับนี้เราจึงมี ตั้งแต่ยังไม่เจ็บป่วย หรือคนที่มีปัญหาสุขภาพแล้วต้องการการตรวจวินิจฉัยเฉพาะทาง หรือต้องการเปลี่ยนแพทย์จากคนที่เคยรักษาเป็นแพทย์ท่านอื่น ควรจะเริ่มต้นที่ไหน อย่างไร ลองพิจารณาว่าวิธีแบบไหนเหมาะกับคุณบ้างค่ะ
สำหรับครอบครัวที่มีลูกหลาน ญาติ หรือเพื่อนเป็นแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ อาจเริ่มจากการพูดคุยสอบถามท่านเหล่านั้นเพื่อขอให้แนะนำถึงการดูแลรักษาอาการ หรือให้แนะนำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับอาการที่เป็น แล้วขอนัดไปปรึกษาอาการ
หากคุณไม่รู้จักใครมาก่อน ง่ายที่สุดก็คือเริ่มจากคลินิกรักษาโรคทั่วไปหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน หากแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าคุณจำเป็นต้องได้รับการตรวจรักษาที่ละเอียดขึ้นเฉพาะโรคที่นอกเหนือจากความสามารถของแพทย์ในที่นั้น ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำคุณให้ติดต่อแพทย์เฉพาะทางที่เขาเชื่อใจ หรือแม้กระทั่งการสอบถามจากพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ต่างๆ เพื่อให้ช่วยแนะนำแพทย์ที่รู้จักให้ก็เป็นอีกแหล่งข้อมูลที่ดี โดยคุณสามารถขอประวัติการรักษาจากสถานพยาบาลที่เก่าเพื่อไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการวินิจฉัยในที่ใหม่ได้
แหล่งข้อมูลจากนิตยสารสุขภาพ หนังสือ กระดานข่าวเกี่ยวกับสุขภาพบนเว็บไซต์ เว็บไซต์ของราชวิทยาลัยแพทย์ ฯลฯ เป็นอีกแหล่งข้อมูลที่รวบรวมรายชื่อแพทย์เฉพาะทาง คลินิก หรือโรงพยาบาลที่สังกัดอยู่ ซึ่งคุณจะเข้าไปค้นหาได้ไม่ยาก
หากคุณไม่ได้มีอาการอะไรผิดปกติ แต่ต้องการตรวจเช็คสุขภาพ อาจเริ่มจากขอรับบริการตรวจสุขภาพประจำปีตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่มักจะจัดไว้เป็นแพ็คเกจเหมาะสำหรับแต่ละเพศ วัย และราคาที่คุณรับได้ ซึ่งจะได้รับการตรวจวัดค่าที่จำเป็นต่างๆ เช่น น้ำหนักตัว ความดันเลือด ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ระดับโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ระดับของกรดยูริค ตรวจการทำงานของหัวใจ รวมทั้งการตรวจหาความผิดปกติในช่องท้องโดยใช้อัลตราซาวนด์ ฯลฯ โดยปกติแพทย์ผู้ตรวจรักษาจะให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพต่างๆ ที่เหมาะสมกับคุณได้
บางโรงพยาบาลมีคลินิกผู้สูงอายุจัดตั้งไว้โดยเฉพาะเพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้สูงอายุ คุณอาจเข้าไปขอรับบริการตรวจสุขภาพ และปรึกษาเกี่ยวกับอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้น แพทย์ผู้ตรวจจะช่วยวินิจฉัยให้ได้
และเมื่อคุณได้พบกับแพทย์ตามคำแนะนำแล้ว คุณอาจต้องประเมินดูว่าแพทย์ท่านนั้นสามารถสื่อสารกับคุณได้ดีแค่ไหน เพราะการพูดคุยสื่อสารกับแพทย์เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย อย่างน้อยๆ เขาต้องรับฟังในสิ่งที่คุณบอกเล่าเกี่ยวกับอาการ และเมื่อเขาอธิบายกลับมาต้องเป็นภาษาที่คุณฟังแล้วเข้าใจ สามารถซักถามได้เมื่อสงสัย
เมื่อแพทย์นัด ก็ควรไปหาตามกำหนดนัด
สำหรับคนที่มีประกันสุขภาพไม่ว่าแบบใดๆ ควรตรวจสอบกับต้นสังกัดที่มีประกันว่าครอบคลุมบริการสุขภาพในแบบใดบ้าง จดเป็นบันทึกช่วยจำไว้ แล้วเลือกไปใช้บริการกับสถานพยาบาลที่เหมาะสมเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
สถานที่ตั้งของคลินิกหรือโรงพยาบาลควรอยู่ในที่ที่สะดวกต่อการเดินทางไปถึง เช่น ใกล้บ้าน หรืออยู่ในตำบล อำเภอที่คุณอาศัยอยู่
คุณควรหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือสอบถามแพทย์ที่คุณไปพบถึงสถานที่ทำงานที่อื่นๆ ที่สามารถติดต่อได้ในเวลาอื่น เช่น คลินิกส่วนตัว หรือโรงพยาบาล และหากแพทย์ท่านนั้นเป็นแพทย์เฉพาะทางที่ทำงานร่วมกับทีมแพทย์เฉพาะทางด้านอื่นๆ ด้านอะไรบ้าง ทำอยู่ที่ไหน ก็เป็นข้อมูลที่ควรทราบไว้
ที่สำคัญถ้าแพทย์ที่คุณไปปรึกษาอยู่ค่อนข้างไกล ก็ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิก สถานบริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุดเตรียมไว้ด้วย เช่น จดสถานที่ตั้ง เบอร์โทรศัพท์ไว้ในที่ที่มองเห็นได้โดยสะดวก เผื่อในกรณีจำเป็นฉุกเฉินอย่างน้อยคุณจำเป็นต้องได้รับการปฐมพยาบาลที่รวดเร็วที่สุด แล้วหลังจากนั้นหากจะต้องส่งต่อไปยังแพทย์ประจำ หรือแพทย์เฉพาะทางก็ค่อยว่ากันอีกที
หวังว่าข้อมูลนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ยังงุนงง ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดีกับการไปพบแพทย์ เชื่อเถอะค่ะว่าแพทย์ส่วนใหญ่ใจดีและพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพกับคุณเสมอนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น